Loading...

Menu

Menu

ที่ท่องเที่ยว

เปิดประวัติศาสตร์ “ยานยนต์ไฟฟ้า”- เช่ารถ

เปิดประวัติศาสตร์ “ยานยนต์ไฟฟ้า”

 ในวันที่ 29 มกราคม 1886 “คาร์ล เบนซ์” วิศวกรชาวเยอรมัน ได้ยื่นจดสิทธิบัตร Benz Patent-Motorwagen สิ่งประดิษฐ์ที่ถูกเรียกว่า “รถยนต์คันแรกของโลก” ตัดภาพมาอย่างรวดเร็วในปี 2020 จากรถยนต์พละกำลังไม่ถึง 1 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุดเพียง 15 กม./ชม. เมื่อ 130 ปีก่อน ปัจจุบันมันถูกพัฒนาไปอย่างมาก และนอกจากรถเครื่องยนต์สันดาปแล้ว ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มเข้ามาเป็นตัวเลือกอีกด้วย แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่งมาเป็นที่คุ้นหูกันในเวลาไม่ถึงสิบปี แต่คุณรู้หรือไม่ว่า อันที่จริงเจ้ารถยนต์ไฟฟ้า มันคือสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกคิดค้นในเวลาไล่เลี่ยกับรถยนต์คันแรกของโลก


เส้นทางรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโลก

จริงอยู่ว่ารถยนต์ของ “คาร์ล เบนซ์” เป็นเหมือนการเปิดประตูโลกแห่งยานยนต์ แต่วิศวกรชาวเยอรมันไม่ใช่คนเดียวที่คิดจะสร้างรถยนต์ในยุคนั้น ในทางเดียวกัน “รถเครื่องยนต์สันดาป” ก็ไม่ใช่แนวคิดแรกที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมา เพื่อใช้ลากรถแทนแรงงานสัตว์ อย่างม้า หรือลา ระหว่างช่วงปี 1820-1830 (ก่อน คาร์ล เบนซ์ จดสิทธิบัตรรถยนต์ของเขา) มีนักประดิษฐ์หลายคนพยายามที่จะสร้างรถซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า

ปี 1828 Ányos Jedlik นักประดิษฐ์ชาวฮังการี ได้ใช้มอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนรถขนาดเล็ก

ปี 1834 Sibrandus Stratingh นักวิทยาศาสตร์ชาวเนเธอร์แลนด์และผู้ช่วยของเขา พยายามสร้างรถที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ที่ไม่สามารถชาร์จไฟได้ แต่น่าเสียดายที่ข้อจำกัดของแบตเตอรี่ในยุคนั้น ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ายังไม่สามารถนำไปใช้งานได้จริง จนกระทั่งมีการคิดค้นแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดขึ้นมา ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น นำไปสู่การผลิตแบตเตอรี่ในระดับอุตสาหกรรมเมื่อปี 1881… ในปีเดียวกันกับที่แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด ถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก

Gustave Trouvé นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส ได้นำรถยนต์ไฟฟ้าของเขามาวิ่งทดสอบบนถนนในเมืองปารีส ก่อนจะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโลก ผ่านไปเพียง 3 ปีรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกแห่งเกาะอังกฤษถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือของ Thomas Parker นักประดิษฐ์เมืองผู้ดี จากนั้นไม่นาน มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบขนส่งมวลชนของที่นั่น

ช่วงปลายปี 1890 ถึงต้นปี 1900 เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของรถยนต์ไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ มีการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในประเทศอังกฤษ เกิดรถแท็กซี่ไฟฟ้าแห่งแรกที่สหรัฐอเมริกา ทั้งยังถูกนำไปใช้งานในเมืองอย่างแพร่หลายด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงนั้นจะเป็นยุคทองของรถยนต์ไฟฟ้า แต่ไม่นานพวกมันกลับเริ่มเสียพื้นที่ในวงการให้กับเครื่องยนต์สันดาป พร้อมๆ กับการค้นพบแหล่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วโลก เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า ณ เวลานั้นทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 30 กม./ชม. และทำระยะทางไกลสุด ต่อการชาร์จได้เพียง 50-60 กม. เท่านั้น แต่รถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป สามารถไปได้ไกลกว่า เร็วกว่า ประหยัด และยังสะดวกสบายกว่านั้นอีกมาก


รถยนต์ไฟฟ้าหายไป สู่การกลับมาอีกครั้ง..

เมื่อเข้าสู่ช่วงปี 1910 ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายรายเริ่มยุติสายการผลิต จากรถที่ใช้ในขนส่งมวลชนหรือรถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์ไฟฟ้ากลับถูกลดบทบาทเป็นเพียงแค่รถส่งนม หรือรถกอล์ฟ เพื่อใช้ในระยะทางสั้นๆ เท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ที่กระแสยานยนต์ใช้น้ำมันเฟื่องฟู จนกระทั่งทุกประเทศทั่วโลกมีแต่รถยนต์เครื่องสันดาปวิ่งเต็มไปหมด แต่หลังจากนั้น ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันของหลายประเทศ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าถูกพูดถึงอีกครั้งมีรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นถูกผลิตออกมา เช่น..

– Tama Electric Vehicle รถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย Nissan ในปี 1947 (ความเร็วได้สูงสุด 35 กม./ชม. และทำระยะทางได้ 96.3 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)

– Henney Kilowatt รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน ในปี 1959 (ความเร็วได้สูงสุด 96 กม./ชม. และทำระยะทางได้ 105 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)